สาวๆคงจะทราบกันดีว่าช่วงที่มีประจำเดือนนั้น ระดับฮอร์โมนในร่างกายของเพศหญิงจะมีการเปลี่ยนแปลง นอกจากจะส่งผลต่อระบบต่างๆในร่างกายแล้วยังส่งผลต่อสภาพผิวของเราอีกด้วย ระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนจะทำให้ผิวแห้งกร้าน หน้ามัน หรือเป็นสิว แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงของการมีประจำเดือน ซึ่งหมายความว่าการเลือกใช้สกินแคร์ตัวเดิมบำรุงผิวของเราอาจจะไม่ตอบโจทย์ได้ทุกช่วงเวลาอีกต่อไป ดังนั้นเราจึงควรทำความรู้จักกับวงจรผิวในแต่ละช่วงของการมีประจำเดือน เพื่อให้เราสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลผิวหน้าเนียนใสให้ห่างไกลสิว ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง
วงจรผิวกับระดับฮอร์โมนในช่วงมีประจำเดือน
ปกติแล้ววงจรผิวของเรานั้นจะมีระยะเวลาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 28 วัน ซึ่งจะมากหรือน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนด้วยเช่นกัน โดยวงจรผิวในช่วงมีประจำเดือนสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงก่อนมีประจำเดือน ช่วงมีประจำเดือน และช่วงหลังมีประจำเดือน ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาจะส่งผลต่อผิวพรรณของคุณอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลย
ปัญหาผิวช่วงก่อนมีประจำเดือน
ช่วงนี้เป็นช่วงที่สาว ๆ หลายคนมักจะพบเจอกับปัญหาสิว ไม่ว่าจะเป็น สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหัวช้าง ฯลฯ เพราะเป็นช่วงที่ต่อมไขมันใต้ชั้นผิวจะผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ บวกกับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนซึ่งเป็นฮอร์โมนตัวสำคัญในการควบคุมภาวะไข่ตกและการมีประจำเดือนมีระดับที่สูงขึ้น แต่ฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ผลิตจากรังไข่ของเพศหญิงจะลดลง ทำให้รู้สึกเพลียหรือทีอาการปวดเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ต้องการการพักผ่อนหรือร้สึกหิวง่ายมากกว่าปกติ แต่ระบบการเผาผลาญจะลดลง ส่งผลให้ระบบย่อยและการขับถ่ายติดขัด อีกทั้งยังส่งผลต่อผิวพรรณ ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ หน้าโทรม หรือเกิดสิวได้ง่ายอีกด้วย
ปัญหาผิวช่วงมีประจำเดือน
เป็นช่วงที่สาว ๆ หลายคนเป็นกังวลมาก เพราะช่วงมีประจำเดือนจะเป็นช่วงที่ร่างกายจะอ่อนแอมากเป็นพิเศษ และมีการเผาผลาญได้ช้าลงมาก ทำให้บางคนไม่สบายหรือติดเชื้อง่ายมากกว่าปกติ เพราะระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ทำให้คุณรู้สึกเพลียมากกว่าช่วงก่อนมีประจำเดือนนั่นเอง นอกจากนี้ระดับของฮอร์โมนที่ลดลงยังส่งผลทำให้ร่างกายขาดน้ำง่าย จนทำให้ผิวแห้งกร้าน ดูไม่เปล่งปลั่งและสดใส แถมยังมีปัญหาสิวตามมากวนใจอีกด้วย
ปัญหาผิวช่วงหลังมีประจำเดือน
ช่วงที่ประจำเดือนใกล้จะหมด ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะค่อย ๆ สูงขึ้น ส่งผลให้ร่างกายของคุณมีภูมิต้านทานที่มากขึ้นตามลำดับ ซึ่งผลของการที่มีภูมิต้านทานที่ดีนอกจากจะส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้การผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทำให้ผิวเรียบเนียน ผิวเปล่งปลั่ง และดูมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ในช่วงหลังมีประจำเดือนคุณจึงสามารถกลับมาใช้สกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ตัวเดิมที่เคยใช้อยู่เป็นประจำได้นั่นเอง
เคล็ดลับดูแลผิวหน้าใสในแต่ละช่วงเวลา
ช่วงก่อนมีประจำเดือน เป็นช่วงที่ฮอร์โมนจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งอาจทำให้อารมณ์แปรปรวนได้ ในช่วงนี้สาว ๆ จึงควรพักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และอย่าลืมบำรุงผิวหน้าด้วยการใช้สกินแคร์เป็นประจำ สามารถเริ่มได้จากการสังเกตผิวในช่วงนี้ว่าคุณมีผิวหน้าที่มันมากหรือเปล่า หรือมีผิวแห้งมากกว่าปกติ ถ้าเกิดว่าคุณหน้ามันเยิ้มในช่วงนี้ก็ควรใช้สกินแคร์ที่ช่วยควบคุมความมันบนผิวหน้า และช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวชั้นลึก อย่างเช่น น้ำตบ เอสเซ้นส์ เป็นต้น
ช่วงมีประจำเดือน เป็นช่วงที่อ่อนไหวง่ายมากเนื่องจากฮอร์โมนลดลง ร่างกายอ่อนแอลง ภูมิต้านทานต่ำ จึงส่งผลให้ผิวพรรณไม่เปล่งปลั่ง หน้าหมองคล้ำ ผิวแห้งกร้าน หรือมีปัญหาสิวตามมากวนใจ ช่วงนี้สาว ๆ จึงควรเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นพิเศษ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น อย่างมอยส์เจอร์ไรเซอร์ และอย่าลืมมาส์กหน้าเพื่อคงความชุ่มชื้นให้กับผิว ให้คุณมีผิวหน้าที่เปล่งปลั่ง กระจ่างใสไม่หมองคล้ำนั่นเอง
ช่วงหลังมีประจำเดือน เป็นช่วงที่คุณมีร่างกายและผิวพรรณที่แข็งแรง เพราะฮอร์โมนกลับมาทำงานอย่างปกติ ช่วงนี้ถ้าหากว่าสาว ๆ คนไหนอยากจะมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง หน้าใสไร้สิว สามารถบูสต์ผิวด้วยการใช้เซรั่มวิตามินซี เซรั่มหน้าใส หรือเซรั่มลดริ้วรอยที่เหมาะกับผิว และตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ ก็สามารถช่วยให้ผิวหน้าของคุณกลับมาสวยเด้ง รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอหลังจากมีประจำเดือนได้แล้ว เพราะผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประเภทเซรั่ม ถูกขนานนามว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบูสต์ผิวใสชั่วข้ามคืน ช่วยดูแลผิวของคุณได้อย่างล้ำลึกถึงชั้นผิว แถมยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย
Leave a reply